|
การลบรอยสัก (Tattoo
removal)
โดย ร.ศ.พญ.พรทิพย์ ภูวบัณฑิตสิน
สาขาตจวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ในอดีตชายไทยอายุมากกว่า 30
ปี นิยมสักผิวเป็นลายสีดำทั่วร่างกาย
โดยใช้หมึกดำซึ่งเป็นสารคาร์บอนสักเป็นลวดลายรูปสัตว์ที่แข็งแรง
หรือสักเป็นภาพยันต์
คาถาอาคมเพื่อความอยู่ยงคงกระพัน การสักจะทำกันในกลุ่มคนซึ่งมีความศรัทธา
ต่อมาการสักของผู้ชายไทยได้เสื่อมความนิยมลง
เพราะรอยสักกลายเป็นลักษณะของนักเลงหัวไม้หรือเป็นเครื่องหมายผู้ซึ่งเคยถูก
จองจำในคุก
แต่ในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา
การสักกลับมานิยมอีกครั้งตามกระแสจากต่างประเทศ
โดยสักเป็นสีสันและลวดลายสวยงาม
การสักกลายเป็นสิ่งท้าทายในกลุ่มวัยรุ่นทั้งหญิงและชาย
เป็นการแสดงออกถึงความกล้าหาญ รายงานจากประเทศสหรัฐอเมริกา
พบการสักในทุกอาชีพ ในทุกระดับการศึกษา
การสักสร้างความภาคภูมิใจในตัวเองว่ามีความแตกต่างจากคนอื่น
และมักกล่าวอ้างว่ารอยสักเป็นศิลปกรรมชั้นสูง
การสักได้สร้างอาชีพใหม่ขึ้น หลายท่านอาจเรียกตัวเองว่าเป็น ศิลปินสักผิว (tattoo
artist)
การสักต้องเจาะผิวหนังเป็นรอยแผลเพื่อ
ให้สีเข้าไปในชั้นลึกของผิวหนังจึงอาจเกิดปัญหากับสุขภาพได้มีการเรียก
ร้องให้ผู้ประกอบอาชีพสักขึ้นทะเบียนเพื่อรักษามาตรฐาน
ในปัจจุบันการสักจะทำได้รวดเร็วด้วยเครื่องมือทันสมัย
ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจากการสักพบน้อย ส่วนปัญหาการแพ้สีสักซึ่งพบในอดีต
เช่น แพ้สีแดงจากสารปรอท
หรือการแพ้สีเหลืองจากสารแคดเมียม จะไม่พบ
เพราะสารดังกล่าวเลิกใช้ผสมในหมึกสัก
ประชากรในสหรัฐอเมริกามีการสักร้อยละ 5
ปัญหาการลบรอยสักจึงเกิดมากขึ้น
การลบรอยสักมีหลายเหตุผล คือ * เกิดปัญหาทางใจ
เพราะข้อความหรือภาพที่สักอาจสะเทือนใจในภายหลัง
เช่น สักชื่อคนรัก * ปัญหาทางสังคม รอยสักไม่เหมาะสมกับอาชีพ
ถ้ารอยสักอยู่ภายในร่มผ้าก็อาจเก็บซ่อนไว้ได้
แต่ในบางอาชีพการสักในร่มผ้ายังเกิดปัญหาได้
เช่น เคยมีผู้ป่วยรายหนึ่งขอลบรอยสักบริเวณแผ่นอก
เพราะไม่ผ่านการตรวจร่างกาย
เพื่อศึกษาวิชาพยาบาลในมหาวิทยาลัยซึ่งมีชื่อเสียงหรือเด็กหนุ่มซึ่งศึกษาใน
ประเทศญี่ปุ่นขอลบรอยสักเพราะเกรงว่าจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นกลุ่มยากูซ่า
*ปัญหาทางเศรษฐกิจ
ค่าใช้จ่ายการสักอาจไม่สูงมาก
แต่การลบรอยสักจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าการสักถึง100 เท่า
* เสียเวลา
การสักทำเสร็จในครั้งเดียวแผลจะหายอย่างรวดเร็ว
แต่การลบรอยสักจะต้องทำติดต่อกันหลายครั้งนานเป็นปี
การยิงเลเซอร์ลบรอยสักแต่ละครั้งจะเกิดรอยแผล แผลตกสะเก็ดหายภายใน 1
สัปดาห์
และต้องรออีก 2-3 เดือน จึงจะยิงเลเซอร์ซ้ำได้
ในบางรายต้องยิงซ้ำ 6-8 ครั้ง
การลบรอยสักจะไม่หมดในการรักษาครั้งเดียว
ภาพรอยสักซึ่งเคยงดงามเป็นที่ชื่นชมจะแหว่งหายไปเป็นแห่งๆ
เหลือเป็นภาพที่ไม่งดงาม
จึงต้องปกปิดรอยสักไว้ตลอดเวลา
* ปัญหาทางการแพทย์
การสักอาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสจากเข็มสัก
แต่ในปัจจุบันพบน้อย เพราะการสักจะทำด้วยเข็มชนิดใช้แล้วทิ้ง
ส่วนการแพ้สารก็ไม่พบเพราะในปัจจุบันสีส่วนใหญ่ที่ใช้จะไม่แพ้และอยู่คงทนลบ
ออกยาก
*
การลบรอยสักด้วยแสงเลเซอร์อาจเป็นทางออกที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรอยสัก
แสงเลเซอร์เมื่อถูกดูดซับด้วยเม็ดสีจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนสูงมาก
เช่น
ผงคาร์บอนในรอยสักแบบโบราณเมื่อยิงด้วยแสงเลเซอร์ผงคาร์บอนจะดูดซับแสง
เลเซอร์ทำให้เกิดความร้อนสูงถึง 300 องศา
เซลเซียส
เม็ดสีคาร์บอน บางส่วนอาจถูกเผาไหม้
บางส่วนแตกย่อยเป็นผงละเอียดกำจัดออกทางกระแสน้ำเหลือง
บางส่วนถูกขับออกตามรอยแผล และบางส่วนจะถูกเซลล์ ในบริเวณเดิม(fibroblast,
macrophage
และ mast cell) เก็บกินไว้
จึงยังคงเห็นรอยสักเหลือหลังการยิงแต่ละครั้ง ข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์
|